นักดนตรีมังคละเภรี มีความเชื่อว่า ครู คือ เทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถ
ดลบันดาลให้ตนมีความสุขสวัสดี หากประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี หรือเกิดความหายนะและเคราะห์กรรมต่างๆ ได้ หากประพฤติ ปฏิบัติตนในทางตรงข้าม ดังนั้นทุกปีจึงต้องมีการประกอบพิธีไหว้ครู
การไหว้ครู เป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนักดนตรีมังคละให้ความเคารพนับถือ และยึดถือ กระทำกันเป็นประเพณี สืบต่อกันจากบรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนในการประกอบพิธีไหว้ครู จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีครูหรือผู้ประกอบพิธีเพื่อเป็นสื่อกลางให้พิธีนั้นๆ เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นผู้ประกอบพิธีจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. เป็นหัวหน้าคณะ หรือเป็นผู้ที่มีอาวุโสที่สมาชิกภายในวงให้การยอมรับ และความเคารพนับถือ
2. เป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดหรือรับมอบวิชาจากครูมาแล้ว และเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในเรื่องการบรรเลงดนตรีมังคละเป็นอย่างดี ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม
พิธีกรรมในการไหว้ครู แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1) พิธีไหว้ครูหรือครอบครูก่อนการฝึกหัดหรือจับข้อมือ
2) พิธีไหว้ครูก่อนการบรรเลง
3) พิธีไหว้ครูประจำปี
1) พิธีไหว้ครูหรือครอบครูก่อนการฝึกหัดหรือจับข้อมือ
การเริ่มฝึกหัดหรือเริ่มเรียนดนตรีมังคละนั้น ผู้เรียนจำเป็นจะต้องทำการครอบครูหรือจับข้อมือเสียก่อน เพื่อเป็นการขออนุญาตและรับมอบวิชาจากครู ซึ่งครูผู้สอนจะเป็นผู้กระทำพิธีครอบและจับข้อมือให้ ถ้าฝึกหัดด้วยตนเองโดยไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าวแล้ว อาจส่งผลให้มีอันเป็นไปในทางไม่ดี หรือที่เรียกว่า “ผิดครู”
พิธีครอบครูหรือจับข้อมือนั้น จะกระทำในวันพฤหัสบดีใดก็ได้ ยกเว้นว่าเป็นวันพฤหัสบดีที่ตรงกับวันพระ ซึ่งถือกันว่าเป็นวันครูเหมาะสำหรับการประกอบพิธีไหว้ครู พิธีไหว้ครูนั้น ผู้เรียนจะต้องจัดหาเครื่องกำนลหรือเครื่องบูชาครูมาเอง ซึ่งเรียกว่า “ขันธ์ 5” อันประกอบด้วย
1. ธูป 5 ดอก
2. เทียน 1 เล่ม
3. หมาก พลู 5 คำ
4. ยาเส้น 5 มวน
5. ดอกไม้ 5 สี
7. เหล้า 1 ขวด
เมื่อผู้เรียนเตรียมเครื่องกำนลครูมาพร้อมแล้ว ผู้ทำพิธีจะเริ่มทำพิธีตามลำดับขั้นตอน โดยให้ผู้เรียนว่าตาม ดังนี้
1. บทบูชาพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
สวาขาโต ภะคะวาตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)
2. บทไตรสรณคม
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
เมื่อผู้เรียนกล่าวตามจบแล้ว ผู้ประกอบพิธีจะทำทำพิธีทำน้ำมนตร์ซึ่งเรียกว่า “ธรณีสารจืด” เพื่อใช้ประพรมให้แก่ผู้เรียน และเพื่อป้องกันเสนียดจัญไร โดยมีคาถา ดังนี้
โอมจักขุทะลุบาดาล
นะกำกวม งวมพระธรณีสาร
ผลาญจัญไร เอหิภิญโญ
โสทายะ อิสิโรเม
พทเทวัญจะ นะรากัญเจ
ประสิทธิเม แห่งข้าพเจ้า
กันครูนครลงกา กันเสี้ยนกันผา
กันอินทร์กันพรหม กันยมพระกาฬ
กันยักษ์กันมาร กันเสี้ยนกันมาร
กันเสี้ยนศัตรู พุทธังกะโรมิ
ธัมมังกะโรมิ สังฆังกะโรมิ
ต่อจากนั้น ผู้ประกอบพิธีจะจุดเทียนหยดลงในขันน้ำมนตร์ แล้วว่าคาถา
“อิสิปะมิ นะชาลิติ”
เมื่อทำน้ำมนต์ธรณีสารแล้ว ครูผู้ประกอบพิธี จะนำพลู 3 จีบ อันหมายถึงพระรัตนตรัยจุ่มลงไปในขันน้ำมนตร์ แล้วจึงประพรมให้กับผู้เรียนเพื่อเป็นการป้องกันเสนียกจัญไรและสิ่งอัปมงคลที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน
ขั้นตอนต่อไป คือการครอบครูหรือจับข้อมือ การครอบครูนั้น จะกระทำโดยการให้ผู้เรียนฝึกหัดตีกลองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถือว่ากลองเป็นเครื่องดนตรีที่นักดนตรียึดถือในการประกอบพิธีไหว้ครู
ในการครอบครูนั้น ผู้ประกอบพิธีจะจับข้อมือของผู้เรียนให้บรรเลงเพลงกลองยืน เพลงไม้สี่ ซึ่งถือกันว่าเป็นเพลงครู หรือเพลงแม่บทที่จะเป็นพื้นฐานในการเรียนเพลงอื่นๆ ต่อไป
ผู้ที่ผ่านการครอบครูหรือจับข้อมือแล้ว จะสามารถเล่าเรียนวิชาความรู้ทางด้านดนตรีมังคละได้ทุกประเภท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของครูผู้ฝึกสอน หรือความต้องการของผู้เรียนที่ต้องการจะฝึกหัดเครื่องดนตรีใด
2 ) พิธีไหว้ครูก่อนการบรรเลง
ก่อนที่จะมีการบรรเลงดนตรีมังคละเภรีทุกครั้ง นักดนตรีมังคละทุกคนจะต้องทำพิธีไหว้ครู เพื่อเป็นการรำลึกถึงครู อาจารย์ที่ได้สั่งสอน ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ ละเป็นการเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง
ขั้นตอนในการประกอบพิธีไหว้ครูก่อนการบรรเลง
ในการประกอบพิธีไหว้ครูก่อนการบรรเลงของวงมังคละเภรีส่วนใหญ่นั้น จะมีรูปแบบในการประกอบพิธีที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งผู้ที่มีอาวุโส หรือหัวหน้าวงจะเป็นผู้ทำพิธีโดยเจ้าภาพหรือเจ้าของงานจะเป็นผู้จัดหาเครื่องกำนลครู ซึ่งประกอบด้วย
1. ธูป 5 ดอก
2. เทียน 1 เล่ม
3. หมาก พลู 5 คำ
4. ยาเส้น 5 มวน
5. ดอกไม้ 5 สี
6. เงินกำนล 6 บาท
7. เหล้า 1 ขวด
เมื่อเตรียมเครื่องกำนลครบแล้ว ผู้ประกอบพิธีจะรินเหล้ากำนลครูใส่แก้วเพื่อเป็นการถวายครู จากนั้นทำน้ำมนตร์ เมื่อเตรียมการพร้อมแล้วทุกคนประนมมือ ผู้ประกอบพิธีสวดบทชุมนุมเทวดา
บทชุมนุมเทวดา
ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา
อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป
รัฏเฐ จะ คามะ ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมะหิ เขตเต ภุมมา
จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา
สันติเก ยัง มุนิวะระจะนัง สาธุโว เม สุณันตุฯ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
เมื่อสวดคาถาชุมนุมเทวดาเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบพิธีจะทำน้ำมนตร์ธรณีสาร แล้วนำไปประพรมให้กับนักดนตรีและเครื่องดนตรี เป็นอันเสร็จพิธี
3) พิธีไหว้ครูประจำปี
การกำหนดพิธีไหว้ครูประจำปีของแต่ละวงนั้น จะไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของวงนั้นๆ รวมไปถึงการกำหนดตามฤกษ์ของแต่ละวง โดยยกเว้น
การกระทำพิธีในวันพระ เช่น บางวงกำหนดวันพฤหัสบดี บางวงกำหนดวันเสาร์และอาทิตย์
(สันติ ศิริคชพันธุ์.2540:129) โดยหากประกอบพิธีในวันพฤหัสบดีนั้น มักจะกระทำในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนหก ซึ่งถือกันว่าเป็นวันปีใหม่ของไทยและเป็นฤกษ์ดีที่สุด
การกระทำพิธีในวันพระ เช่น บางวงกำหนดวันพฤหัสบดี บางวงกำหนดวันเสาร์และอาทิตย์
(สันติ ศิริคชพันธุ์.2540:129) โดยหากประกอบพิธีในวันพฤหัสบดีนั้น มักจะกระทำในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนหก ซึ่งถือกันว่าเป็นวันปีใหม่ของไทยและเป็นฤกษ์ดีที่สุด
การจัดสถานที่สำหรับใช้ประกอบพิธีไหว้ครูประจำปีนั้น ส่วนใหญ่จะใช้บ้านของหัวหน้าวง หรือสถานที่ที่ได้กำหนดเอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความกว้างขวาง เหตุเพราะสะดวกในการประกอบพิธี ในการจัดเตรียมพิธีไหว้ครูนั้นมักจะมีการจัดพิธีสงฆ์ควบคู่กันไปด้วย คือมีการนิมนต์พระมาสวดในช่วงเช้าก่อนเริ่มกระทำพิธี
สำหรับการจัดสถานที่ไหว้ครูมักจะจัดทำแท่นสูงลดหลั่นตามระดับ เพื่อตั้งศีรษะเทพเจ้าที่จะอัญเชิญมาตั้งในการประกอบพิธี และมีการปูผ้าขาวเพื่อรองศีรษะต่างๆ ด้วยในส่วนของอุปกรณ์ เครื่องใช้สำหรับประกอบพิธีนั้น ประกอบด้วย
1. พระพุทธรูป
2. ศีรษะครู
3. โต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูป
4. แท่นบูชา
5. เครื่องดนตรีมังคละเภรี
6. บาตรน้ำมนตร์
7. แป้งกระแจะและน้ำอบ
8. เชิงเทียน
9. กระถางธูป
10. ผ้าขาวปูนั่งสำหรับผู้ประกอบพิธี
11. หมอนกราบ
12. พวงมาลัยคล้องศีรษะครูและเครื่องดนตรี
13. พวงเงินและพวงทอง
14. ขัน/พานใส่ข้าวตอกดอกไม้
15. ขันกำนลสำหรับครอบ ประกอบด้วย ดอกไม้ ธูปเทียน เงินกำนล
16. สายสิญจน์
17. ดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับบูชาพระรัตนตรัยและบูชาครู
เครื่องสังเวยในการบูชาครู ประกอบด้วย
หัวหมู
เป็ด
ไก่
กุ้ง
ปู
น้ำจิ้ม
บายศรีปากชาม
กล้วยน้ำว้า
มะพร้าวอ่อน
ขนมต้มแดง
ขนมต้มขาว
ขนมคันหลาว
ขนมหูช้าง
บุหรี่ หมาก พลู
เหล้าโรง
น้ำสะอาด
ผลไม้ต่างๆ (ยกเว้น มังคุด ละมุด พุทรา และมะไฟ)
รายละเอียดในการจัดพิธีไหว้ครูประจำปี ประกอบด้วย
โต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูป
ศีรษะครู
เครื่องบูชาครู
เครื่องดนตรีมังคละที่ใช้เข้าร่วมพิธี
เครื่องสังเวยสุก
เครื่องสังเวยดิบ
ที่นั่งสำหรับผู้ประกอบพิธี
ผู้เข้าร่วมพิธี
วงมังคละเภรีที่ใช้สำหรับบรรเลงประกอบพิธีขณะไหว้ครู
ขั้นตอนในการประกอบพิธีไหว้ครูประจำปี
เมื่อจัดตรียมสิ่งของสำหรับประกอบพิธีเรียบร้อยแล้ว จะเริ่มเข้าสู่การประกอบพิธีการไหว้ครู โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้
ลำดับที่ 1 ผู้ประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วจุดบูชาเทพเจ้าต่างๆ จากนั้นจุดเทียนขันน้ำมนตร์ จุดธูปให้กับผู้เข้าร่วมพิธี จากนั้นผู้ประกอบพิธีเริ่มสวดคาถาชุมนุมเทวดา
บทชุมนุมเทวดา
ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา
อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป
รัฏเฐ จะ คามะ ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมะหิ เขตเต ภุมมา
จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา
สันติเก ยัง มุนิวะระจะนัง สาธุโว เม สุณันตุฯ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ลำดับที่ 2 ผู้ประกอบพิธีกล่าวโองการบูชาครูให้ผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวตาม
บทอัญเชิญครู
พุทธัง วันทิตวา ข้าพเจ้าไว้แล้วซึ่งพระพุทธคุณัง
ธัมมัง วันทิตวา ข้าพเจ้าไว้แล้วซึ่งพระธรรมคุณัง
สังฆัง วันทิตวา ข้าพเจ้าไว้แล้วซึ่งพระสังฆคุณัง
อนึ่ง ข้าพเจ้าขออัญเชิญคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า คุณพระบิดามารดา คุณอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ คุณพระฤาษีนารท คุณพระฤาษีนาไลย คุณพระฤาษีตาวัว คุณพระฤาษีตาไฟ คุณพระฤาษีประไลยโกฏ คุณพระฤาษีกัสสป คุณพระฤาษีไตรภพ คุณพระฤาษีทัสสมงคล อีกทั้งเพระเพ็ชรฉลูกัณฑ์ นักสิทธิวิทยา อีกทั้งนางพระธรณี พระคงคา พระเพลิง พระพราย พระอิศวร ผู้เป็นเจ้าฟ้า ขอเธอมาประสิทธิพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า
อนึ่งข้าพเจ้าขออัญเชิญเทพยาดาทั่วพื้นปฐพีดล ฤาษีทั้ง 108 ตน จงบันดาลดลด้วยสรรพพิศแลวิทยา พระครูพา พระครูเฒ่า ครูพักแลอักษร จงสถาพร กรรมสิทธิ์ให้แก่ข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้
อิติปิโส ภควา ข้าพเจ้าขออัญเชิญคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงมาสถิตอยู่เหนือเกล้าผม ขอเชิญพระพรหม จงมาสถิตอยู่บ่าเบื้องซ้าย ขอเชิญพระนารายณ์ จงมาสถิตอยู่บ่าเบื้องขวา ขอเชิญพระคงคาจงมาเป็นน้ำลาย ขอเชิญพระพายจงมาเป็นลมปาก ขอเชิญพญานาคจงมาเป็นสร้อยสังวาล ขอเชิญ
พระกาฬจงมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้ากระทำสิ่งใด ภูตใด พรายใด ขอจงอย่ามาเบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขอเชิญคุณครูแต่หนหลัง ฤาษีทั้ง 108 ตน เดชะคุณครูบาธิบายอันล้ำเลิศ คุณครูที่อยู่ในถ้ำ จงมาช่วยอวยพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้ พุทธังประสิทธิมหาประสิทธิ ธัมมังประสิทธิมหาประสิทธิ สังฆังประสิทธิมหาประสิทธิ
พระกาฬจงมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้ากระทำสิ่งใด ภูตใด พรายใด ขอจงอย่ามาเบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขอเชิญคุณครูแต่หนหลัง ฤาษีทั้ง 108 ตน เดชะคุณครูบาธิบายอันล้ำเลิศ คุณครูที่อยู่ในถ้ำ จงมาช่วยอวยพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้ พุทธังประสิทธิมหาประสิทธิ ธัมมังประสิทธิมหาประสิทธิ สังฆังประสิทธิมหาประสิทธิ
อุกาสะ วันทิตะวา อาจาริยัง นะมามิหังปิวินาศสันติ
ทุติยัมปิ อุกาสะ วันทิตะวา อาจาริยัง นะมามิหังปิวินาศสันติ
ตะติยัมปิ อุกาสะ วันทิตะวา อาจาริยัง นะมามิหังปิวินาศสันติ
อุกาสะ วันทิตะวา ข้าพเจ้าขออาราธนา คาภานิมภารี วันนี้ บัดเดี๋ยวนี้ ขอให้ได้ดวงแก้วมณี รุ่งเรืองสุกใส ในจักขุทวาร มโนทวาร ของข้าพเจ้านี้เถิด
ลำดับที่ 3 ผู้ประกอบพิธีทำน้ำมนตร์ธรณีสาร เพื่อป้องกันเสนียดจัญไรและสิ่งอัปมงคลทั้งปวงที่จะบังเกิดขึ้นในระหว่างการประกอบพิธีไหว้ครู ต่อจากนั้นใช้พลู 3 จีบ อันหมายถึงพระรัตนตรัย จุ่มลงในน้ำมนตร์เพื่อประพรมให้ทั่วประรำพิธี
ลำดับที่ 4 ผู้ประกอบพิธีกล่าวโองการไหว้ครูให้ผู้ร่วมพิธีกล่าวตาม
บทไหว้ครู
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ
อุกาสะ วันทิตะวา ข้าพเจ้าขออัญเชิญ พระวิษณุกรรมและพระเพ็ชรฉลูกัณฑ์ ทั้งเทพบุตรทั้ง 4 อีกทั้งพระมหาฤาษีทั้ง 4 พระองค์ จงลงมาสโมสรประชุมในสถานที่ ณ ที่นี้ (กราบ)
วันนี้ก็เป็นวันดี ขอให้เจริญ ศรีสุขสวัสดิ์ ข้าพเจ้าตั้งใจประติพัฒน์นมัสการ พระชินศรี พระนักกุฎี คุณพระปกเกล้าเกศี ทุกค่ำเช้าเพลางาย ข้าพเจ้าจะขอไหว้พระอิศวร ข้าพเจ้าจะขอไหว้พระพราย ข้าพเจ้าจะขอไหว้เทวดาทั้งหลาย ข้าพเจ้าจะขอไหว้คุณบิดามารดา คุณครูจงรักษา ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข (กราบ)
นะโม ข้าพเจ้าขอนมัสการ ข้าพเจ้าขอกราบกราน ไหว้เทพไททั้ง 3 พระองค์ พระวิษณุกรรมผู้ทรงฤทธิ์ ที่ท่านประสิทธิ์สรรพสรร เครื่องเล่นสารพันในใต้หล้า อีกทั้งเทวดาปัญจสิงขร ท่านท้าวการพระกร ท่านท้าวถือพิณ ดีดดังเสนาะสนั่น อีกทั้งท่านปรโคนธรรพ และครูเฒ่า ครูทั้งนั้นเล่าสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ ข้าพเจ้าขออัญชุลี ขอเชิญพระฤาษีทั้ง 7 ตน จงมาอวยชัยให้การมงคลให้แก่ข้าพเจ้า พร้อมด้วยทั้งของนี้ (กราบ)
ลำดับที่ 5 ผู้ประกอบพิธีเปิดขวดเหล้ารินใส่แก้ว วงมังคละเภรีบรรเลงเพลงไม้สี่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงครูบาอาจารย์ จากนั้นผู้ประกอบพิธีอ่านโองการ ให้ผู้ร่วมพิธีกล่าวตาม
ศรีศรีประสิทธิฤทธิ เดโชชัยยะเดชะ พระเลิศไกรประสิทธิ ด้วยพรมงคล ข้าพเจ้าขอเชิญ
เทวา ทุกสถานเบื้องบนมาสถิตแห่งสกล กันเสนียดจัญไร สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย อุปัทวอันตรายอย่าได้มีมา วินาศสันติ อิมัสมิง อะหังวันทามิ อาจาริยัง ประทาสายัง วินาศสันติ สิทธิการปะระปะชาตัสมิง สิทธิภะวะตะสรรพ (กราบ)
เทวา ทุกสถานเบื้องบนมาสถิตแห่งสกล กันเสนียดจัญไร สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย อุปัทวอันตรายอย่าได้มีมา วินาศสันติ อิมัสมิง อะหังวันทามิ อาจาริยัง ประทาสายัง วินาศสันติ สิทธิการปะระปะชาตัสมิง สิทธิภะวะตะสรรพ (กราบ)
สรรพโคนธรรพ ประเทอิมัสมิง ทิตสาภาเค สันติเทวา มะหิตทิกาเตติ ตุมหิอนุรักคันตุ
ปะริพุทธชันตุ (กราบ)
ปะริพุทธชันตุ (กราบ)
อุกาสะ ข้าพเจ้า ขอประสิทธิ เครื่องดีด สี ตี เป่า ขับร้องฟ้อนรำ สิทธิจัง สิทธิกัมมัง
สิทธิการิยะ ตะถาระคะโต สิทธิเตโชโยนิจจัง สิทธิลาภัง ภวันตุเม ปะติบูชา คันธรรพนาคา เวสสุกรรมปัญจสิงขร เทวาสรรพบูชาเย (กราบ)
สิทธิการิยะ ตะถาระคะโต สิทธิเตโชโยนิจจัง สิทธิลาภัง ภวันตุเม ปะติบูชา คันธรรพนาคา เวสสุกรรมปัญจสิงขร เทวาสรรพบูชาเย (กราบ)
ลำดับที่ 6 ผู้ประกอบพิธีใช้พลู 3 จีบ จุ่มลงในแก้วแล้วประพรมไปทั่วประรำพิธี พร้อมทั้งให้ผู้เข้าร่วมพิธีหั่นเนื้อสัตว์และปอกผลไม้เพื่อถวายครู
ลำดับที่ 7 ผู้ประกอบพิธีกล่าวนำบทบูชาครู ผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวตาม
บทลาครู
สรรพโคนธรรพ สรรพโคนธา พระมหาเดชะ อิมัสมิง อัฐลาเค เทวาพลายันตุ
ทุติยัมปิ สรรพโคนธรรพ สรรพโคนธา พระมหาเดชะ อิมัสมิง อัฐลาเค เทวาพลายันตุ
ตะติยัมปิ สรรพโคนธรรพ สรรพโคนธา พระมหาเดชะ อิมัสมิง อัฐลาเค เทวาพลายันตุ
(กราบ 3 ครั้ง)
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการไหว้ครูแล้ว ผู้ประกอบพิธีจะทำการเจิมหน้าผากให้กับผู้เข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อจากนั้นนักดนตรีมังคละจะทำพิธีขอพรจากครูโดยใช้พวงเงิน พวงทองซึ่งทำด้วยไม้ไผ่หลาวคล้ายคันเบ็ด แล้วใช้เชือกมัดสร้อยทองคำหรือเงิน นำมาลากไปมาบนเครื่องดนตรีมังคละ เพื่อเป็นการขอพรให้ร่ำรวยมีเงิน มีทองจากการเป็นนักดนตรีมังคละ
ลำดับต่อไป ผู้ประกอบพิธีจะทำการ “จับข้อมือ” หรือ การครอบครูให้กับลูกศิษย์ที่ต้องการหัดเครื่องดนตรีมังคละ
เป็นที่น่าสังเกตว่าบทไหว้ครู จะกล่าวถึงเทพทางวิชาดนตรี ครูผู้สืบทอดวิชา และสั่งสอนต่อ ๆ กันมาไม่ว่าจะเป็นครูประเภทครูแนะนำ ครูสั่งครูสอน ครูที่ช่วยต่อกลอน ต่อสติ ต่อปัญญาให้แก่ศิษย์จะอัญเชิญมารับการสักการบูชาทั้งหมด เช่น ครูทอง ครูไทย ปู่กาล หลวงตาง่วน ลุงเส้ง เขียวเอี่ยม เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูที่แฝงอยู่ในดนตรีพื้นบ้านมังคละเภรีในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น